สิงหาคม 13, 2552

******กาสรติดต่อสื่อสารเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี*******

การติดต่อสื่อสาร เป็นปัจจัยในการสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพราะคนเรามีการติดต่อสื่อเป็นวิธีในการนำสื่อข่าวสาร ข้อเท้จจริง ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก และความต้องการจากบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และเกิดความพึงพอใจต่อกัน การติดต่อสื่อสารบุคคล2 ฝ่าย มาติดต่อสื่อสารกัน จากการสื่อสารการพูด การเขียน กริยาท่าทาง ใช้สัญลักษณ์ รูปภาพเป็นต้น
ความสำคัญของการติดต่อสื่อสาร การติดต่อสื่อมีความสำคัญต่อมนุษย์ 5ประการ
  1. ความสำคัญต่อสังคม มนุษย์ใช้ในการติดต่อสื่อสารเป็นเครื่องมือในการรวมกัเป็นกลุ่มและดำรงความเป็นสังคม เพื่อให้เกิดความเป็นอบอุ่น มั่งคงปลอดภัย มีการสร้างความเข้าใจตรงกัน
  2. ความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน การดำรงชีวิตตั้งแต่เช้า จนถึงเวลาพักผ่อนหลับนอน เราจะต้องมีการติดต่อสื่อสารกันตลอดเวลา การติดต่อสื่อสารกันในครอบครัวเพื่อนบ้าน สื่อสารภายในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่ทำงาน
  3. ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมและธุกิจ การติดต่อสื่อสารที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอุตสาหกรรมและการดำเนินธุรกิจ เช่น การใช้หลักการสื่อสารสร้างความสัมพันธ์ ไม่ว่าการบริหาร พนักงาน ลูกค้า และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ เพื่อในการเผยแพร่สินค้า การโฆษณาสินค้าตลอดจนการชักจูงลูกค้า สร้างแรงจูงใจให้กับผู้บริโภค และเป็นเครื่องมือในการบริหารและการปฏิบัติงาน
  4. ความสำคัญต่อการปกครอง ในการปกครองบังคับบัญชา ไม่ว่าจะเป็นระบบใด หน่วยงาน รัฐบาล หน่วยงานเอกชน องค์การ ครอบครัว ผู้บริหารหรือผู้ที่ทำหน้าที่ปกครองบ้านเมือง จำเนต้องมีการติดต่อสื่อสารกัน เพื่อให้ทราบถึงนโยบายการดำเนินงานของประเทศ
  5. ความสำคัญต่อการเมืองระหว่างประเทศ การเมืองการปกครองประเทศมีความจำเป็นต้องติดต่อสื่อสารกันและกัน โดยเฉพราะยุคปัจจุบันเป็นยุคแห่งเทคโนโยข่าวสาร เพื่อให้ทันเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ ควาร่วมมือระหว่างประเทศ การศึกษาการเมือง และการปฏิบัติการทางทหารและการร่วมมือทุกด้านของแต่ละประเทศ

สิงหาคม 08, 2552

****ประโยชน์มากมายจากขนุน****

*****ประโยชน์จากขนุน****
ขนุนนั้นเป็นต้นไม้ที่คนไทยเรารู้จักดี เพราะขนุนนั้นสามารถนำมาทำประโยชน์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ใช้เป็นยา ใช้รับประทานก็แสนอร่อย และอื่น ๆ อีกมากมาย และยังเป็นต้นไม้มงคลตามความเชื่ออีกว่า ถ้าปลูกต้นขนุนทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ (หรดี) ในบริเวณบ้านจะหนุนเนื่อง บุญบารมี เงินทอง จะมีคนเกื้อหนุน และอุดหนุนจุนเจือ นอกจากนี้ชาวเหนือใช้ใบขนุนร่วมกับใบพุทรา ใบพิกุล นำมาซ้อนกันแล้วนำไปไว้ใน ยุ้งข้าวตอนเอาข้าวขึ้นยุ้งใหม่ๆ เชื่อกันว่าจะทำให้หนุนนำและส่งผลให้มีข้าวกินตลอดปีและตลอดไป
****ประโยชน์จากขนุน*****
  1. ใบ รสฝาดมันรักษาหนองเรื้อรัง และใบสดนำมาตำให้ละเอียดอุ่นพอกแผล
  2. ราก รสหวานอมขม แก้ท้องร่วง แก้ไข้ แก้ธาตุน้ำกำเริบ โลหิตพิการ ฝาดสมานบำรุงกำลัง และบำรุงโลหิต
  3. แก่นและราก รสหวานอมขม บำรุงโลหิต แก้กามโรค ขับพยาธิ ระงับประสาท และแก้โรคลมชัก
  4. ยาง รสจืด ฝาดเฝื่อน แก้อักเสบบวม แผลมีหนองเรื้อรัง แก้ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ ขับพยาธิ และขับน้ำนม
  5. เนื้อหุ้มเมล็ด รสหวานมันหอม บำรุงกำลัง และชูหัวใจให้ชุ่มชื่น
  6. เนื้อในเมล็ด รสหวานมัน บำรุงน้ำนม ขับน้ำนม และบำรุงกำลัง
  7. ขนุนอ่อน มีใยในอาหารสูงมาก ซึ่งจะช่วยความสะอาดลำไส้ และยังช่วยในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ด้วย

นอกจากนี้ขนุนยังนำมาแปรรูปเป็นอาหารต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ขนุนแผ่น ขนุนกวน ขนุนเชื่อม หรือแม้แต่ข้าวเหนียวขนุน และอื่น ๆ อีกมากมาย นี่แหล่ะถือเป็นวิถีชีวิตของชาวไทยที่รู้จักการพอเพียง ที่นำผลไม้ที่ปลูกในบ้านมารับประทาน และรู้จักการใช้ประโยชน์จากสิ่งของอย่างคุ้มค่า

**** ประโยชน์ของส้ม******

  1. ส้มช่วยให้เรามีความสดชื่นและการถ่ายเท่ของร่างกายสะดวกตลอดจนการต้านโรคร้ายชนิดต่างๆอีกด้วย
  2. ส้มช่วยให้เราเกิดการสร้างวิตามินซีและป้องกันการเลือดออกตามไรฟันและป้องกันการเข็งตัวของเลือดขณะเกิดอุบัติเหตุ
  3. ส้มช่วยให้ป้องกันการอับเสบของเนื้อร้ายและการจับตัวของเลือดเพื่อให้เป็นก้อน
  4. ส้มช่วยป้องกันอัมพาตของร่างกายของเราและช่วยรักษาเซลล์เนื้อร้ายระบบประสาทกล้ามเนื้อ
  5. ส้มช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายสร้างความเข็งแรงและล้างพิษไขมันออกจากร่างกาย

สิงหาคม 04, 2552

ข่าวดโรคกาฬโรคลงปอด

วิธีป้องกันโรคกาฬโรคลงปอด
  1. รักษาความสะอาดของบ้าน
  2. ไม่รับประทานอาหารพวกหนูหรือสัตว์ป่าเพื่อป้องกันการติดเชื่อ
  3. รักษาความสะอาดของคนรอบข้างและตัวเราเนื่องจากว่าเกิดจากการติดต่อทางผิวหนัง
  4. โรคกาฬโรคเกิดจากหนูเป็นเชื่อของโรค
  5. เป็นโรคที่ติดต่อคนสู่คนและเป็นโรคที่ร้ายแรงกว่าโรคไข้หวัดใหญ่เป็นร้อยเท่า
  6. เป็นโรคที่เกิดในประเทศจีนและพบผู้ติดเชื่เป็นประเทศในโลก
  7. เป็นโรคที่ที่เราต้องให้ความสำคัญต่อตัวเรามากๆเลย
  8. เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาใหม่และพบผู้เสียชีวิตแล้ว
  9. หมั่นรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะแสะอาดทุกครั้งเสมอ
  10. หมั่นล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหมั่งดูแลความสะอาดของบ้าน
  11. ไม่รัประทานหนูเป็นเด็ดขาดเพราะหนูเป็นพาหะนำโรคกาฬโรคลงปอด
  12. เป็นโรคที่มีความร้ายแรงมากที่สุดโลกพบว่าผู้ใดติดเชื่อจะเสียชีวิภายในยี่สิบสี่ชั่งโมง

กรกฎาคม 30, 2552

**เทคนิคการถ่ายสวยด้วยกล้องดิจิตอล***

6 เทคนิคการถ่ายสวยด้วยกล้องดิจิตอล***
  1. รู้จักกล้องของเองเสียก่อน
  2. ฝึกการควบคุมแฟลช
  3. การใช้โหมด Macro
  4. มุมมองในการถ่ายภาพ
  5. การใช้ขาตั้งกล้อง
  6. รู้จักกับ Iso

*****ทฤษฏีการจัดการเรียนการสอนครูวิทยาศาสตร์*******

  1. . การจัดการเรียนการสอนทางอ้อม ได้แก่ การเรียนรู้แบบสืบค้น แบบค้นพบ แบบแก้ปัญหา แบบ สร้างแผนผังความคิดแบบใช้กรณีศึกษา แบบตั้งคำถามแบบใช้การตัดสินใจ
    2. เทคนิคการศึกษาเป็นรายบุคคล ได้แก่ วิธีการเรียนแบบศูนย์การเรียน แบบการเรียนรู้ด้วยตนเอง แบบชุดกิจกรรมดารเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
    3. เทคนิคการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ประกอบการเรียน เช่น การใช้สิ่งพิมพ์ ตำราเรียน และแบบฝึกหัดการใช้แหล่งทรัพยากรในชุมชน ศูนย์การเรียนชุดการสอน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน บทเรียนสำเร็จรูป
    4. เทคนิคการจัดการเรียนการสอนแบบเน้นปฏิสัมพันธ์ ประกอบด้วย การโต้วาทีกลุ่ม Buzz การ อภิปราย การระดมพลังสมอง กลุ่มแกปัญหา กลุ่มติวการประชุมต่าง ๆ การแสดงบทบาทสมมติ กลุ่มสืบค้นคู่คิดการฝึกปฏิบัติ เป็นต้น
    5. เทคนิคการจัดการเรียนการสอนแบบเน้นประสบการณ์ เช่น การจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เกม กรณีตัวอย่างสถานการณ์จำลองละคร เกม กรณีตัวอย่างสถานการณ์จำลอง ละคร บทบาท สมมติ
    6. เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ ได้แก่ ปริศนาความคิดร่วมมือแข่งขันหรือกลุ่มสืบค้น กลุ่มเรียนรู้ ร่วมกัน ร่วมกันคิด กลุ่มร่วมมือ
    7. เทคนิคการเรียนการสอนแบบบูรณาการ ได้แก่ การเรียนการสอนแบบใช้เว้นเล่าเรื่องและการเรียนการสอนแบบ แก้ปัญหา

******ทำงานกับคอมพิวเตอร์อย่างมีความสุข****

  1. แนวทางในการจัดสภาพงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงาน
  2. แนวทางในการจัดสภาพในส่วนที่เกี่ยวกับคอมพิวเคอร์
  3. แนวทางในการจัดสภาพในส่วนที่เกี่ยวกับสถานที่ปฏิบัติงาน
  4. แนวทางในการจัดสภาพงานในส่วนที่เกี่ยวกับช่วงระยะเวลาการทำงาน

กรกฎาคม 18, 2552

******เราจะอยู่อย่างไรในยุคศตวรรษที่21***

  1. เราต้องมีความรู้ในด้านของเทคโนโลยีสารสนเทศ
  2. เราต้องมีความรู้ในด้านกลุ่มองค์กรเกีย่ยวกับการทำงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
  3. เราต้องมีความรู้ในด้านของเทคโนโลยีสารสนเทศและสามารถมาประยุกต์ใช้กับการทำงานเราได้
  4. เราต้องศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลาและปรับใช้กับการดำเนินชีวิตของเราได้
  5. เราต้องนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการทำงานและการดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบันได้
  6. เราต้องเห็นความสำคัญของหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตของเราได้
  7. เราต้องมีความขยันและอดทนในการทำงานทุกด้านและนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานได้
  8. เราต้องรู้จักแบ่งเวลาในการดำเนินและการทำงาน เพื่อที่เราจะสามารถดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบันได้
  9. เราต้องมีกลุ่มและเพื่อนที่เราต้องเข้าทำงานในยุคปัจจุบันตลอดจนเราต้องมีความรู้ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในการติดสื่อสารกันได้
  10. เราต้องหมั่นศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลาในฐานะที่เราเรียนครูวิทยาศาสตร์ และเราอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์ ที่มีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศตลอดเวลา
  11. เราต้องมีความรู้ในด้านการจัดการเรียนการสอนประกอบกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในทำสื่อการเรียนการสอนทางด้านครูวิทยาศาสตร์ได้
  12. เราต้องมีความรู้ในด้านการทำสื่อการเรียนการสอนและเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และทันต่อสื่อที่ทันสมัยตลอดจนการนำเสนอรูปแบบการเรียนการสอนเชิงครูวิทยาศาสตร์และมีความสนใจทางด้านการเรียนการสอนมากขึ้น
  13. ครูวิทยาศาสตร์สามารถนำรูปแบบการเรียนการสอนในยุคปัจจุบันและสามารถนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ใน การจัดรูปแบบการเรียนการสอนของนักเรียนได้
  14. ครูวิทยาศาตร์สามารถนำหลักเศรษฐกิจมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตและเป็นตัวที่ดีให้กับนักเรียนในยุคโลกาภิวัฒน์ได้
  15. ครูวิทยาศาสตร์ต้องให้ความสำคัญกับหลักเศรษฐกิจพอเพียงและให้ความสำคัญกับการจัดรูปแแบบการเรียนการสอนด้านหลักเศรษฐกิจมาประยุกต์ใช้กับนักเรียนได้

กรกฎาคม 16, 2552

****4 สุดยอด‘น้ำสมุนไพร’ประโยชน์เพียบ********

****4 สุดยอด‘น้ำสมุนไพร’ประโยชน์เพียบ****

หลากสรรพคุณบำรุงร่างกา

น้ำใบบัวบก

น้ำใบบัวบกมีวิตามินเอสูงมาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้สายตาทำงานหนักอยู่เป็นประจำ เพราะจะช่วยบำรุงสายตาได้อย่างดี และยังมีแคลเซียมและวิตามินบี1 สูงกว่าผักชนิดอื่นอีกด้วย ประโยชน์อื่นๆ ของน้ำใบบัวบก คือ ใช้แก้ช้ำใน แก้ฟกช้ำดำเขียว แก้ร้อนใน บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ ถ้าดื่มทุกวันเป็นเวลา 1 อาทิตย์จะช่วยลดความดันโลหิตได้ แก้แผลอักเสบและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ทำให้เลือดแข็งตัวเร็ว ช่วยขับปัสสาวะ

น้ำว่านหางจระเข้

ประโยชน์ของว่านห่างจระเข้ อยู่ที่วุ้นซึ่งมีประสิทธิภาพในการสมานแผล ทำให้แผลหายเร็ว ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่อยู่รอบๆ แผล และถ้าเอาไปทานก็จะช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้หายอ่อนเพลีย ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ แต่เนื่องจากสารสำคัญในว่านหางจระเข้จะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้สดๆ ดังนั้นเมื่อตัดออกมาแล้วจึงควรใช้ทันที อย่าวางทิ้งไว้ และก่อนใช้ควรล้างยางสีเหลืองๆ ออกให้หมดก่อน เพื่อไม่ให้เกิดอาการคันหรือแพ้ในภายหลัง

น้ำลูกเดือย

เป็นเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยฟอสฟอรัส จึงช่วยบำรุงกระดูกได้ดี เหมาะสำหรับเด็กที่กำลังเจริญเติบโต นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา ช่วยให้เจริญอาหารและเหมาะที่เป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้น คนสมัยก่อนใช้น้ำลูกเดือยเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน บำรุงไต บำรุงกระเพาะอาหารและม้าม แก้อาหารคลื่นไส้อาเจียน และโรคท้องร่วงได้

น้ำขิง

อุดมไปด้วยแคลเซียมที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน สารเบต้าแคโรทีนในน้ำขิงสามารถช่วยต้านมะเร็งได้และยังมีคุณสมบัติเป็นยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับเสมหะ คลื่นไส้อาเจียน เมารถหรือเมาเรือ ลดการจับตัวของลิ่มเลือด ช่วยเพิ่มการหลั่งน้ำดีและน้ำย่อย ทำให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น


****"ผักชีลาว" สมุนไพรมากประโยชน์ *****

"ผักชีลาว" สมุนไพรมากประโยชน์


ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ



ผักชีลาวนั้นจะมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้หลายคนชื่นชอบ และหลายคนส่ายหัวไม่อยากกิน แต่ผักชีลาวก็เป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณค่ามากมายเช่นกัน โดยคุณค่าทางโภชนาการของผักชีลาวนั้นประกอบไปด้วยแร่ธาตุอย่างแคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ และวิตามินบีอีกด้วย ด้านสรรพคุณของผักชีลาวก็คือจะช่วยในการทำงานของกระเพาะ ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ลดความดันโลหิตสูง ขยายหลอดเลือดและกระตุ้นการหายใจ และทำให้มีน้ำนมเพิ่มมากขึ้นในคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตร และลดการเกิดโคลิก (Colic) ในทารกเมื่อกินนมแม่อีกด้วย

******ข้อควรปฏิบัติก่อนใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง ******

ข้อควรปฏิบัติก่อนใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง

1. ล้างมือให้สะอาดก่อนสวมหน้ากากอนามัย

2. ควรใส่ให้ผ้าปิดตั้งแต่จมูกจนถึงคาง เพื่อป้องกันเชื้อร้ายที่แฝงตัวมากับอากาศเข้าสู่ร่างกาย

3. เมื่อทำการสวมใส่ ควรหลีกเลี่ยงให้มือไปสัมผัสกับเนื้อผ้าบริเวณด้านใน ที่แนบกับจมูกและปาก เพราะในมืออาจมีเชื้อโรคทำให้เข้าสู่ร่างกายได้

4. ควรสวมหน้ากากอนามัยให้พอดีกับหน้า โดยเฉพาะบริเวณสันจมูก ด้านที่มีโลหะจะอยู่บนสันจมูก

5. หน้ากากอนามัยจะมีสองสี เอาสีเข้มออกด้านนอก สีจางอยู่ชิดจมูก

6. สายรัดหรือยางที่ไว้สำหรับคล้องควรจะผูกให้พอดี และอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

7. ถ้าเป็นไปได้ให้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวัน

กรกฎาคม 13, 2552

***** ประโยชน์ของส่าหรายทะเล***

  1. ไอโอดีนสามารถช่วยป้องกันโรคคอพอกได้
  2. ธาตุเหล็ก เป็นสารอีกชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในสาหร่ายทะเล ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณ
  3. ทองแดง หน้าที่ดูดซึมธาตุเหล็กและสร้างฮีโมโกลบินที่ไขกระดูก หากร่างกายขาดธาตุนี้จะทำให้เป็นโรคโลหิตจางและผมร่วง
  4. สังกะสี ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันเป็นส่วนประกอบของเอนไซม์หลายชนิดในร่างกาย
  5. ใย ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระ ทำให้ท้องไม่ผูก และเร่งการขับถ่ายสารพิษต่างๆ

*****รณรงค์ป้องกันไข้หวัดใหญ่2009****

  1. สวมใส่หน้ากากอนามัย
  2. ออกกำลัยกายสม่ำเสมอ
  3. ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและทุกครั้งด้วย
  4. ความสะอาดของร่างกายเสื้อผ้าการสวมใส
  5. หลีกเหลี่ยงการร่วมกับผู้ที่มีอาการไอจาม
  6. พัักผ่อนให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่ประโยชน์กับร่างกาย
  7. หลีกเหลี่ยงการดื่มสุราและสิ่งเสพติดทุกชนิด
  8. รับประทานอาหารที่ปรุงใหม่และสะอาด
  9. ล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลบ่อยๆ
  10. ดื่มน้ำสะอาดและน้ำผลไม้มากๆ งดดื่มน้ำเย็นจัด พยายามรับประทานอาหารอ่อนๆ รสไม่จัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่ ผัก และผลไม้ให้พอเพียง
  11. ต้องหมั่นคอยสังเกตอาการไว้ตลอด
  12. สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ปิดปากและจมูกเวลาไอหรือจามด้วยกระดาษทิชชูหรือแขนเสื้อของตนเอง

กรกฎาคม 03, 2552

***อิทธิำพลของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการศึกษา*****

เรื่อง **** แผนสังหารพลิกนรก***
****อิทธิำพลของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการศึกษา*****
Plot-Exposition : มีเด็กผู้ชายอยู่สองคนเป็นพี่น้องกัน ชื่อว่า อีธาน และ เจอร์รี่ที่อยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งและจากนั้น
มาสองพี่น้องได้มีโอกาสเติบโตและได้ศึกษาในมหาวิทยาลัย จากนั้นนาย เจอร์รี่ ได้เข้ารับราชการทหารหลังจากนั้มา
นาย เจอร์รี่ได้ทำหน้าที่เกี่ยวพลเมืองค่อยให้ความช่วยเหลือประชาชนและทำหน้าที่เป็นสายเก็บกู้ความเดือนร้อนให้กับประชาชน
ตลอเวาลาที่รับราชการทหาร แม้ว่าท่านจะอยู่ที่ใดท่านก็ตาม
Rising Ation : อยู่ตรงที่ว่ามีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการสื่อสารอาทิ การบิน การติต่อสื่อสารทางด้านทางอากาศ
วิทยุที่มีความเร็วสูงและมีความรวดเร็วตลอดจนการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปกป้องประเทศโดยการคิดวิธีการสร้างดาวเทียม
ที่สามารถครอบคลุมทั่วโลกได้และมีการเจาะหาแหล่งข้อมูลที่เราต้องการได้อย่างรวดเร็ว และสามารถคาดเดาสถานการณ์ที่
จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ โดยการควบคลุมของดาวเทียมและสามารถที่ีจะให้เรารับมือกับสถานการณ์ที่ตามมาได้ ทั้งนี้เป็นเพราะ
เทคโนโลยีที่ทันสมัยของการพัฒนาความคิดความเจริญ ที่ได้จากการศึกษาเล่าเรียนของเรา
Climax : ตอนที่ว่านักวิทยาศาสตร์ต้องการศึกษาเล่าเรียนอยู่ตลอดเวลาและคู่กับการพัฒนาประเทศที่เราต้องนำพาความเจริญ
มาสู่ประเทศชาจฃติของเราโดยเฉพาะยุคปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนา อยู่ตลอดเวลาและการที่เราเป็นจะไปเป็นครูในอนาคต
เราต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่องเทคโนโลยีที่เราจะำไช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนในโรงเรียนต่างๆ และในยุค
ปัจจุบันเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของเรา ตลอดจนการทำงานและการที่เราจะำไปประกอบอาชีพความเป็นครู
ฉะนั้นเราต้องมีทักษะทางด้านเทคโนโลยี เพื่อที่เราจะสามารถติดต่อสื่อสาร ซึ่งกันและกันในเรื่อง จะเห็นได้ว่ามีการนำ
เทคโนโลยีสารสนเทศมาใชในการติดต่อทา่งด้านคมนาคม การจู่โจมเป้าหมายของการก่อร้าย และการสกัดหน่วยจู่โจมของการ
ทีจะมาจู่โจมเรา ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อเรามากเลยอาทิการศึกษาของเราการทำำงาน
การติดต่อกับต่างประเทศและการค้าขายกับต่างประเทศและการปกป้องอาณาจักรตลอดการสร้างความเชื่อมั่น
ให้กับประเทศเราและความปลอดภัยให้ประเทศเราอีกด้วย
Resolution : หลังจากที่มีการดำเนินชีวิตจะเห็นได้ว่านาย เจอร์รี่ ก็สามารถทำหน้าที่เกี่ยวด้านการทหารและสามารถ
นำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและได้รับการสนับสนุนที่ดีจากผู้หลักผู้ใหญ่ ในประเทศ เป็นที่ยอรับของสังคม
ในคนหมู่มาก ทั้งนี้เป็นเพราะเขามีควมตั้งใจศึกษาเล่าเรียนในวิชาที่ตนเองชอบและรักในอาชีพ มีการศึกษาเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
และมีการเรียนรู้อยู่ที่จะพัฒนาความรู้ความสามารถ เพื่อที่จะนำความรู้ไปประกอบใช้ในการดำรงชีวิตและการทำงานของ นาย เจอร์รี่
Charaters : นาย เจอร์รี่ นาย อีธาน นาย รอร์ เรเชล ด.ช. แซม นาย เรเจล ฮอส์ โนเพล
Protagoning : บุคคลที่มีบทบาทมากที่สุดในเรื่องการแสดงประกอบด้วยนาย อีธาน นาย เจอร์รี่ ด.ช.แชม และเรเจล ฮอส์ โนเพล
Antagont : จะมีกลุ่มที่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีนำไปใช้ในทางที่ผิดและส่งผลกระทบต่อประเทคชาติ
และโลกของเราฉะนั้นถ้าเราความรู้เราควรนำความรู้ไปใช้ในทางถูก
และเกิดประโยชน์กับกระบวนการเรียนการสอนของครูวิทยาศาสตร์ให้มากที่สุด
Setting : ในฐานเราเป็นนักศึกษาเราต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเพื่อที่เราจะำได้นำความรู้ควมสามารถของเราไปใชใน
การจัดการเรียนการสอนสาระวิทยาศาสตร์
  1. การสอนในสาระวิทยาศาสตร์ การติดต่อสื่อสารในชีวิตและการติดต่อกับชาวต่างชาติอยู่ตลอดเวลา การทำงานของเรา การจัดทำสื่อให้กับนักเรียนในอนาคต
  2. การสร้างสื่อสาระวิทยาศาสตร์ เพื่อทีเราต้องนำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์
  3. ช่วยให้เราทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบันทันโลกทันสมัยรวดเร็วกับเรามากยิ่งขึ้น
  4. ช่วยให้เรามีประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอนและการใช้เทคโนโลยีตลอดจนการเรียนการสอนของครู
  5. ช่วยให้เรามีความรู้ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยตลอดจนการจัดรูปแบบการเรียนการสอนของนักเรียนเช่นการนำเสนองานต่างๆ
  6. ช่วยให้เรามีความรู้ความสามารถในเรื่องเทคโนโลยีตลอดการการหาความรู้เำพิ่มเติมทางอินเตอร์เน็ต
  7. ช่วยให้เรารู้ว่าปัจจุบันเราต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่องเทคโนโลยีและการต้องค้นหาความรู้ตลอดเวาลา
  8. ช่วยให้เราเิกิดกระบวนการเรียนรู้ในเรื่องวิทนาศาสตรและการจัดรูกการเรียนสอนเชิงวิทยาศาสตร์

มิถุนายน 28, 2552

***10 วิธีความทรงจำดีๆ***

10 วิธีความทรงจำดีๆ

1. ออกกำลัง การออกกำลังแบบแอโรบิค หรือออกกำลังต่อเนื่อง เช่น วิ่งเหยาะ (จ็อกกิ้ง) ฯลฯ นาน 20-30 นาที อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์

2. ฝึกคลายเครียด (relaxation) การฝึกสมาธิ ไทเกก (ชี่กง – ไทจี้) โยคะ ซึ่งช่วยทำให้การหายใจเข้า – ออกช้าลงอย่างน้อยวันละ 10 นาที

3. ฝึกแสดงความชื่นชม (appreciation/ “แอพพรีชิเอเชิ่น”) การแสดงความชื่นชมควรเน้นที่การกระทำ ไม่ว่าใครทำอะไรดีๆ ควรแสดงความชื่นชมเสมอ เพื่อฝึกการมองโลกในแง่ดี คนที่ต้องชื่นชมก่อนคนอื่นทั้งหมดคือ ชื่นชมตัวเราเองเวลาเราทำอะไรดีๆ และชื่นชมคนรอบข้าง

4. หาเครือข่ายสังคม (social network) เครือข่ายสังคมดีๆ ช่วยให้เรามองโลกในแง่ดี และช่วยเหลือเกื้อกูลกันไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข จึงควรเลือกคบเพื่อนดีๆ ญาติดีๆ และเครือข่ายสังคมดีๆ ฯลฯ

5. ใช้ปฏิทินวางแผน ว่าจะทำอะไรก่อนหลังลงบนปฏิทิน อย่าปล่อยให้เรื่องวุ่นๆ รกสมองจนล้นทะลัก

6. ลำดับความสำคัญ (list) เขียนไปเลยว่า จะทำอะไรก่อน – หลังอะไรสำคัญ – ไม่สำคัญ แบ่งเป็น 4 ช่อง และเลือกทำสิ่งที่รีบด่วน + สำคัญก่อนเสมอ

7. ให้รางวัลตัวเองบ้าง เวลาเราทำอะไรดีๆ สำเร็จ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ควรฝึกให้รางวัลตัวเองบ้าง ผู้เขียนมักจะให้รางวัลตัวเองด้วยการกล่าว “สาธุ สาธุ สาธุ” กับตัวเอง หรือเดินเล่น (10-120 นาที)

8. เลือกแต่สิ่งดีๆ (prioritize) เวลาไปงานหรือพบปะคนมากๆ ไม่จำเป็นต้องจำคนทุกคนให้ได้ เช่น ถ้าพบคน 25 คน เลือกจำคนดีๆ ที่ควรคบ 5 คนก็พอ ฯลฯ

9. นอนให้พอ คนส่วนมากต้องการนอนวันละ 7 ชั่วโมง (แต่ละคนไม่เท่ากัน) ลองสังเกตดูว่า นอนเท่าไหร่ที่จะทำให้สดชื่น และไม่ง่วงตอนบ่ายๆ แต่อย่านอนเกินวันละ 9 ชั่วโมง… การนอนมากเกินทำให้อัตราการตายจากโรคต่างๆ เพิ่มขึ้นได้

10. ข่าวดี คือ ไม่มียาหรืออาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มความจำได้ แม้แต่โสมก็ไม่ช่วย มีแต่ “ซองใส่ยา” หรือรองเท้าดีๆ สักคู่ ใส่มันเดินมากๆ วิ่งมากๆ ซองใส่ยานี้อาจช่วยให้ความจำดีขึ้นได้ในระยะยาว


***กินกล้วยวันละ2 ผล เกิดประโยชน์มหาศาล***

ประโยชน์ของกล้วย

1. โรคโลหิตจาง ในกล้วยมีธาตุเหล็กสูงจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด และจะช่วยในกรณีที่มีสภาวะขาดกำลัง หรือภาวะโลหิตจาง

2. โรคความดันโลหิตสูง มีธาตุโปรแตสเซียมสูงสุด แต่มีปริมาณเกลือต่ำ ทำให้เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่จะช่วยความดันโลหิตมาก อย.ของอเมริกายินยอมให้อุตสาหกรรมการปลูกกล้วยสามารถโฆษณาได้ว่า กล้วยเป็นผลไม้พิเศษช่วยลดอันตรายอันเกิดจากเรื่องความดันโลหิตหรือโรคเส้นเลือดฝอยแตก

3. กำลังสมอง นักเรียน 200 คน ที่โรงเรียน Twickenham ได้รับผลดีจากการสอบตลอดปีนี้ ด้วยการรับประทานกล้วยในมื้ออาหารเช้า ตอนพัก และมื้ออาหารกลางวันทุกวัน เพื่อช่วยส่งเสริมกำลังของสมองในพวกเขา จากงานวิจัยแสดงให้เห็นว่า ปริมาณโปรแตสเซียมที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในกล้วย สามารถให้นักเรียนมีการตื่นตัวในการเรียนมากขึ้น

4. โรคท้องผูก ปริมาณเส้นใยและกากอาหารที่มีอยู่ในกล้วยช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติ และยังช่วยแก้ปัญหาโรคท้องผูก โดยไม่ต้องกินยาถ่ายเลย

5. โรคความซึมเศร้า จากการสำรวจเร็ว ๆ นี้ ในจำนวนผู้ที่มีความทุกข์เกิดจากความซึมเศร้าหลายคน จะมีความรู้สึกที่ดีขึ้นมากหลังการกินกล้วย เพราะมีโปรตีนชนิดที่เรียกว่า try potophan เมื่อสารนี้เข้าไปในร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็น serotonin เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตัวผ่อนคลายปรับปรุงอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ คือทำให้เรารู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้นนั่นเอง

6. อาการเมาค้าง วิธีที่เร็วที่สุดที่จะแก้อาการเมาค้าง คือ การดื่มกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง กล้วยจะทำให้กระเพาะของเราสงบลง ส่วนน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไป ในขณะที่นมก็ช่วยปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา

7. อาการเสียดท้อง กล้วยมีสารลดกรดตามธรรมชาติที่มีผลต่อร่างกายของเรา ถ้าปัญาเกี่ยวกับอาการเสียดท้อง ลองกินกล้วยสักผล คุณจะรู้สึกผ่อนคลายจากอาการเสียดท้องได้

8. ความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า การกินกล้วยเป็นอาหารว่างระหว่างมื้ออาหาร จะรักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือดให้คงที่ เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า

9. ยุงกัด ก่อนใช้ครีมทาแก้ยุงกัด ลองใช้ด้านในของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัด มีหลายคนพบอย่างมหัศจรรย์ว่า เปลือกกล้วยสามารถแก้เม็ดผื่นคันที่เกิดจากยุงกัดได้

10. ระบบระสาท ในกล้วยมีวิตามินบี สูงมาก ช่วยทำให้ระบบประสาทสงบลงได้ โรคน้ำหนักเกินและโรคที่เกิดในที่ทำงาน จากการศึกษาของสถาบันจิตวิทยาในออสเตรียค้นพบว่า ความกดดันในที่ทำงานเป็นเหตุนำไปสู่การกินอย่างจุบจิบ เช่นอาหารพวกช็อคโกแล็ต และอาหารประเภททอดกรอบต่าง ๆ ในนจำนวนคนไข้ 5,000 คน ในโรงพยาบายต่าง ๆ นักวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นโรคอ้วนมากเกินไป และส่วนใหญ่ทำงานภายใต้ความกดดันสูงมาก จากรายงานสรุปว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการตื่นตระหนกและนำไปสู่การกินอาหารอย่างบ้าคลั่ง เราจึงต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือด ด้วยการกินอาหารว่างที่มีปริมาณคาร์โบโฮเดรตสูง เช่น กินกล้วยทุก 2 ชั่วโมง เพื่อรักษาปริมาณน้ำตาลให้คงที่ตลอดเวลา ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่อยยา การกินกล้วยที่มีวิตามินบี 6 ซึ่งประกอบด้วย สารควบคุมระดับกลูโคสที่สามารถมีผลต่ออารมณ์ได้

11. โรคลำไส้เป็นแผล กล้วยเป็นอาหารที่แพทย์ใช้ควบคุม เพื่อต้านทานการเกิดโรคลำไส้เป็นแผล เพราะเนื้อของกล้วยมีความอ่อนนิ่มพอดี เป็นผลไม้ชนิดเดียวที่ทานได้ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคลำไส้เรื้อรัง และกล้วยยังมีสภาพเป็นกลางไม่เป็นกรด ทำให้ลดการระคายเคือง และยังไปเคลือบผนังลำไส้และกระเพาะอาหารด้วย

12. การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ในวัฒนธรรมของหลายแห่งเห็นว่ากล้วย คือผลไม้ที่สามารถทำให้อุณหภูมิเย็นลงได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอุณหภูมิของอารมณ์ของคนที่เป็นแม่ที่ชอบคาดหวัง ตัวอย่างในประเทศไทย จะให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์รับประทานกล้วยทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่า ทกรกที่เกิดมาจะมีอุณหภูมิเย็น

13. ความสับสนของอารมณ์เป็นครั้งคราว กล้วยสามารถช่วยในเรื่องของอารมณ์และความสับสนได้ เพราะในกล้วยมีสารตามธรรมชาติ try potophan ทำให้อารมณ์ดี

14. การสูบบุหรี่ กล้วยสามารถช่วยคนที่กำลังพยายามเลิกสูบบุหรี่ เนื่องจากในกล้วยมีปริมาณของวิตามินซี เอ บี6 และบี 12 ที่สูงมาก และยังมีโปรแตสเซียมกับแมกนีเซียม ที่ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นคืนตัวได้เร็ว อันเป็นผลจากการลดเลิกนิโคตินนั่นเอง

15. ความเครียด โปรแตสเซียมเป็นสารอาหารสำคัญ ที่ช่วยให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติ การส่งออกซิเจน ไปยังสมอง และปรับระดับน้ำในร่างกาย เวลาเกิดอารมณ์เครียด อัตรา metabolic ในร่างกายของเราจะขึ้นสูง และทำให้ระดับโปรแตสเซียมในร่างกายของเราลดลง แต่โปรแตสเซียมที่มีอยู่สูงมากในกล้วยจะช่วยให้เกิดความสมดุล

16. เส้นเลือดฝอยแตก จากการวิจัยที่ลงในวารสาร “The New England Journal of Medicine” การกินกล้วยเป็นประจำสามารถลดอันตรายที่เกิดกับเส้นโลหิตแตกได้ถึง 40%

17. โรคหูด การรักษาหูดด้วยวิธีทางเลือกแบบธรรมชาติ โดยการใช้เปลือกของกล้วยวางปิดลงไปบนหูด แล้วใช้แผ่นปิดแผลหรือเทปติดไว้ให้ด้านสีเหลืองของเปลือกกล้วยออกด้านนอก ก็จะสามารถรักษาโรคหูดให้หายได้